เมืองไทยส่วนใหญ่มีอากาศร้อนแทบตลอดทั้งปี บางเดือนก็ร้อนจนแทบจะละลายกองอยู่กับพื้นเลยทีเดียว อย่างคนไทยโบราณก็มีวิธีปลูกสร้างที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ จนมีสถาปัตยกรรมท้องถิ่น คือ เรือนไทย บ้านไม้ 2 ชั้นใต้ถุนสูง หลังคาหน้าจั่ว พร้อมชานบ้านกว้าง และเป็นบ้านที่ทนร้อนทนฝนเป็นอย่างดี
เมื่อเวลาผ่านไปแน่นอนว่ารสนิยมเรื่องบ้านก็ปรับเปลี่ยนไปตามกระแส อย่างบ้านสไตล์ตะวันตก ที่มากับดีไซน์
"แบบบ้านโมเดิร์น" ซึ่งเหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นเสียมากกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบบบ้านแนวนี้ก็เป็นแบบที่คนไทย นิยมชมชอบกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในตัวกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาคารทรงกล่องเรียบๆ ไร้กันสาด ไร้ชายคา ประตูหน้าต่างเป็นเพียงกระจกใส ความเรียบเหล่านี้สร้างปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นผนังรั่วซึมเมื่อฝนสาด ความร้อนที่อบอวนอยู่ภายใน วันนี้เราเลยนำวิธีการป้องกันความร้อนให้กับบ้านสไตล์โมเดิร์นมาฝากกัน
♥ ทิศทางของบ้าน
นอกจากแสงแดดและสายฝนแล้ว เมืองไทยยังมีลมเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้บ้านโมเดิร์นอยู่สบายขึ้น เริ่มจากการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอก ให้มีที่ตั้งที่เหมาะสม สอดคล้องกับทิศทางของแดด ลม และฝน รวมถึงออกแบบช่องเปิดต่างๆ ให้เหมาะกับลมประจำฤดู ได้แก่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกยิ่งขึ้น
♥ หลังคา
บ้านโมเดิร์นโดยทั่วไปจะใช้หลังคาทรงเรียงแบนหรือไม่มีหลังคา เป็นต้นเหตุที่บ้านกักเก็บความร้อน แต่เมื่อสร้างในไทยจำเป็นต้องมีหลังคาไว้ช่วยลดความร้อนและรังสีจากดวงอาทิตย์ และช่วยในการระบายน้ำฝน โดยยกขอบผนังโดยรอบให้สูงขึ้น ทำเป็นหลังคาแบบลาดเอียง แล้วซ่อนรางน้ำฝนไว้ภายใน พร้อมมีช่องลมให้ความร้อนที่ลอยตัวสูงได้ระบายออกจากอาคาร ทั้งนี้อย่างลืมติดฉนวนกันความร้อนอีกชั้นเพื่อช่วยลดความร้อนจากหลังคาช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ทั้งยังสามารถซ้อนหลังคาอีกชั้นเพื่อบดบังความร้อนได้อีกทาง
♥ ป้องกันความร้อนที่ผนังและเพดาน
เริ่มจากการเลือกฉนวนกันร้อนซึ่งทำหน้าที่สะท้อนความร้อนที่ส่งตรงมาจากผนังและรักษาความเย็นภายในเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้นฉนวนกันร้อนยังสามารถติดตั้งในส่วนของฝ้าเพดานซึ่งต้องรับความร้อนโดยตรงจากหลังคาและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บ้านร้อนระอุนั่นเอง
♥ ผนัง
กระจกกับบ้านโมเดิร์นดูจะเป็นของคู่กัน แต่กระจกใสจะทำให้ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้โดยตรง จึงแนะนำให้ทำผนังทึบในบริเวณที่ต้องเจอกับแดดแรงๆ เป็นประจำ สำหรับด้านที่ถูกแสงแดดไม่มาก และต้องการทำผนังหรือหน้าต่างกระจกใส อาจนำแผงระแนงมาติดตั้ง หรือติดม่าน/มู่ลี่ เพื่อช่วยกรองแสงแดด และยังช่วยพรางสายตาจากบุคคลภายนอกหรือเลือกใช้กระจกตัดแสง ที่มีคุณสมบัติช่วยกรองแสงแดดจ้าให้เบาลง และช่วยกันความร้อนได้เป็นอย่างดี
♥ เลือกสีทาบ้านให้เหมาะสม
ควรทำบ้านและหลังคาให้เป็นสีอ่อน เพราะสีเข้มมีคุณสมบัติดูดซับความร้อน จะทำให้บ้านสไตล์โมเดิร์นยิ่งร้อนอบอ้าวกว่าเดิม และหากมีงบประมาณสักหน่อย แนะนำให้ใช้สีที่มีคุณสมบัติป้องกันและสะท้อนความร้อน ก็จะช่วยให้บ้านเย็นและประหยัดพลังงานมากขึ้น
♥ พื้นที่รอบบ้าน
ไม่ใช่แค่การออกแบบตัวอาคารเท่านั้น แต่พื้นที่รอบๆก็มีส่วนทำให้บ้านเย็น นั่นคือการหลีกเลี่ยงวัสดุที่เก็บความร้อนอย่างพื้นคอนกรีต เพราะคอนกรีตจะสะสมและคายความร้อน ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านยิ่งสูงขึ้น แนะนำให้ใช้เป็นแผ่นหิน หรือใช้ไม้ระแนงปูเว้นร่องเพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่พื้นดิน และควรปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ ทั้งที่เป็นต้นไม้ใหญ่และพืชคลุมดิน เพิ่มความเย็นสบายตามธรรมชาติและช่วยป้องกันแดดฝนอาจสร้างสระน้ำหรือบ่อน้ำ เพื่อช่วยลดปริมาณไอความร้อนที่จะพัดเข้าสู่บ้าน
♥ เพิ่มวัสดุช่วยบังแดด
เนื่องจากบ้านโมเดิร์นไม่มีชายคาไว้บังแดดฝนโดยตรง การมีผนัง 2 ชั้น จึงเหมาะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทาง อาจจะเป็นการกรุด้วยหินธรรมชาติซึ่งหินจะเก็บความชื้นได้ดี หรืออาจจะตีระแนงไม้เป็นผนังในแนวยาว นอกจากจะช่วยบังแดดแรงแล้ว ยังได้เงาและเส้นสายจะไม้ระแนงเป็นความสวยอีกรูปแบบ