สำหรับวิถีชีวิตของ
คนเมือง ด้วยความเจริณรุ่งเรืองจึงทำให้มีผู้คนพลุกพล่าน จอแจ และพื้นที่อยู่อาศัยนั้นมีอยู่อย่างจำกัด การที่จะ
สร้างบ้านสักหลังที่จะเอื้อต่อสุขภาพทั้งกายและใจนั้น อาจไม่ได้ยากจนเกินไป หากเจ้าของบ้านคำนึงถึงปัจจัยต่างๆที่ส่งผลดีโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการระบายอากาศ อุณหภูมิ ปริมาณเสียง แสงสว่าง ในระดับพอเหมาะ การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยและเลือกใช้วัสดุอย่างลงตัว ทั้งนี้ ไม่ควรลืมรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยด้วย วันนี้ทาง
อาร์คิเทค บีเคเค จึงได้นำความรู้ดีๆสำหรับคนที่กำลังจะส
ร้างบ้านใหม่ บ้านที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดีนั้นทำอย่างไรไปดูกัน
♦ ภาวะอยู่สบาย
ภาวะอยู่สบาย คือ ภาวะที่อุณหภูมิความชื้นภายนอกที่สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในร่างกายซึ่งส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกอยู่สบาย ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปในระหว่างที่อยู่ภายในบ้าน ซึ่งภาวะดังกล่าวประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ให้เรารู้สึกสบายได้ ดังนั้น ควรสร้างบ้านให้มีช่องเปิดระบายอากาศได้ดี รวมทั้งเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยลดความชื้น และลดอุณภูมิภายในบ้าน
♦ พื้นที่ใช้สอย
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยนั้นควรออกแบบอย่างเรียบง่าย ลดซอกมุมอับซึ่งอาจเป็นที่เก็บฝุ่น ควรวางแปลนบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้เกิดซอกเล็กซอกน้อย หรือพื้นที่ที่เข้าไม่ถึง โดยเฉพาะส่วนที่มักสกปรกง่ายอย่างห้องครัวและห้องน้ำ ทำที่เก็บของหรือตู้แบบปิดได้ เพื่อกันฝุ่นอีกทั้งยังดูเรียบร้อย
♦ วัสดุ
ในการสร้างบ้านนั้นควรเลือกใช้วัสดุที่ปลอดสารพิษ ไม่มีสารพิษตกค้าง ต้องมีค่าการทนไฟตามกฎหมายกำหนดเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและเพื่อนบ้านข้างเคียง และควรเลือกชนิดที่ทำความสะอาดง่าย
♦ แสงสว่าง
แสงสว่างนั้นสามารถทำให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ หากใช้แสงสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งาน และเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
- แสงธรรมชาติ เป็นแสงที่สร้างความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดี ทำให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย
- แสงประดิษฐ์ ในช่วงฤดูกาลที่มีแสงธรรมชาติน้อยอาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ ดังนั้น การใช้แสงประดิษฐ์มาจัดแสงไฟส่องเฉพาะจุด จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นได้ดี
♦ เสียง
การสร้างบ้านนั้นควรควบคุมระดับความดังของในแต่ละห้องให้เหมาะสม เพราะเสียงนั้นส่งผลโดยตรงทั้งสุขภาพร่างกาย และจิตใจได้ เช่น อาจทำให้รู้สึกรำคาญ รบกวนการพักผ่อนและการทำงาน มีผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตได้ เป็นต้น โดยเสียงจากภายนอกที่เข้ามาในบ้านไม่ควรเกิน 45 เดซิเบล ส่วนเวลาที่นอนหลับพักผ่อนไม่ควรเกิน 30 เดซิเบล
♦ อารมณ์และความรู้สึก
อารมณ์และความรู้สึกถูกสร้างได้จากการใช้สีสันของห้อง และแสงที่เหมาะสมตามการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ซึ่งสียังมีอิทธิพลต่อการเสริมพลัง สร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงกระตุ้นประสาทสัมผัสของเราต่อห้องต่างๆให้เชื่อมโยงกับการใช้งานมากที่สุด อย่างเช่น ห้องนอน ใช้สีโทนเย็นทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนห้องนั่งเล่น ใช้แสงแสงโทนวอร์มไลท์ ช่วยให้รู้สึกอบอุ่น ส่วนห้องรับประทานอาหาร ใช้สีโทนร้อน ช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเจริญอาหาร ทำให้เกิดความหิว เป็นต้น
♦ พื้นที่สีเขียว
ในเมืองส่วนใหญ่มักมีพื้นที่สีเขียวน้อย ดังนั้น ควรปลูกต้นไม้ไว้ในบริเวณบ้าน เพื่อให้ร่มเงา ช่วยลดความร้อน กรองฝุ่นควัน ดูดซับเสียงรบกวน และสร้างความสดชื่นผ่อนคลาย เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมบ้านให้ดีต่อสุขภาพ